วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

รัก กับ หลง สิ่งที่คุณ ควรจะได้รู้




 

....รัก....
เป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจ
ไม่สามารถจะอธิบายความหมายได้
ไม่จำเป็นต้องเคยพบกันมาก่อน
สามารถมาจากความใกล้ชิดได้
ไม่จำเป็นต้องเสียการเรียนเพราะรัก
ไม่จำเป็นต้องมีเวลาให้กันตลอด
สามารถช่วยเหลือกันได้
ความรู้สึกสามารถสื่อหากันได้
รักแท้ต้องไม่มีการล่อลวง
ถ้ารักในวัยเรียนต้องสามารถช่วยเหลือกันได้
บางครั้งไม่จำเป็นต้องเปิดเผย

...หลง...
มาจากความรู้สึก
มาจากรูปร่าง หน้าตา
ไม่ได้มาจากใจจริง
เหมือนถูกมอมเมา
ทำให้เสียการเรียนได้<ข้อนี้ต้องระวังมาก>
ถ้าไม่ศึกษาให้ดีเสียความรู้สึก<ตีความหมายได้หลายอย่าง>
ต้องมีเวลาให้กันตลอดเวลา
อาจมาจากความใกล้ชิดในลักษณะที่ไม่สมบูรณ์
มีโอกาศสูงที่จะเสียตัว
ลักษณะของอาการหลง ที่คุณควรจะระวัง
เมื่ออีกฝ่ายบอกให้ทำอะไรจะทำตาม<ในบางเรื่องที่ไม่สมควรทำ>
จำเป็นจะต้องมีเวลาให้กันตลอดเวลา(ห่างกันนานไม่ได้)
มีการนัดกันบ่อยมาก
มีการคิดถึงกันตลอดเวลา(อย่างเกินปกติ)
ชอบทั้งที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรักเราด้วยใจจริงหรือไม่ 

สรุปอย่างง่ายๆ

        รัก เป็นสิ่งที่อยู่ในตัวเรา ไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดเผยให้บุคคลอื่นได้รับรู้ อาจจะเป็นกำลังใจให้ในยามท้อแท้ แต่ หลง เป็นอาการเพียงชั่วขณะเมื่อพบเห็น หรือถูกชักจูง โดยวิธีใดวิธีหนึ่งซึ่งในบางครั้ง เราอาจจะไม่รู้ และมีโอกาศสูงที่จะถูกทำให้เสียตัว

สุดท้าย ก็เหลือตัวคนเดียว





เคยคิดว่าตัวเองนั้น ไม่มีทางที่จะถูก "ปล่อยทิ้งให้อยู่คนเดียว"
แต่จริง ๆ ไม่ใช่เลย คนเราเกิดมาคนเดียว
ก็ต้องเดินคนเดียว และต้องตายคนเดียว
แต่บางครั้งการที่ได้อยู่คนเดียว กลับฟุ้งซ่าน คิดนู่น ห่วงนี้ สารพัด
แต่บางครั้งการที่อยู่คนเดียว ก็ได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริง
ว่าเรา รักเค้าจริง ๆ หรือป่าวหล่ะ
ไม่มีเขาอยู่ข้าง ๆ ไม่มีใครคอยจูงมือ
ให้รู้ไว้ว่าความเหงามันเดียวดาย ในฝูงชน มันเหงา
ในความเฮฮา มันมืด ในความสว่างขนาดไหน
กลับได้ไปคิดทบทวนว่าเขา คือส่วนเติมเติมเหล่านี้ไหม
ความรักมันสั้น แต่มันก็หวานพอที่จะทดแทนความสั้น
ความหลงมันยาว แต่มันก็ขมพอที่จะทดแทนความยาว
แล้วเราหลงหรือรักเขากันแน่
แล้วเขาเป็นแค่เพื่อนหรือคนที่เรารักกันแน่
ช่วงเวลาที่ตอบได้ก็ต้องมีเวลาที่เปรียบเทียบตอนที่เราได้อยู่กับเขา
และเราถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว
ความรู้สึกมันแตกต่างกันขนาดไหน บอกตัวเองเถิด
และถ้ามันอ้างว้าง เหงา มืด ก็จงอย่าปล่อยให้แสงสว่างผ่านชีวิตคุณไปเลย....ขอร้อง
เพราะคุณคงต้องเผชิญโลกมืดอีกยาวไกลกว่าที่จะพ้นควา

อกหักเมื่อรักต้องจบ




http://www.postsmiles.com/datafiles/tinymce/upload/image/108948_headline.jpg

ความอ้างว้างไม่ได้โหดร้ายอะไรนัก
มันก็แค่ช่วงเวลาที่เธอควรใช้มันให้กับตัวเอง
หลังจากที่วุ่นวายไปกับชีวิตคนอื่นมานานพอควร

ถ้าเธอเคยหกล้ม
เธอก็จะเดินอย่างระมัดระวังมากขึ้น
ไม่ใช่คิดจะไม่เดินอีกเลย

บางครั้งคนเรา
ก็ต้องยอม รับในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ
และต้องยอมรับในการตัดสินใจของคนอื่น
ถึงมันจะไม่ดีกับเธอเลยก็ตาม
เพราะเราเลือกแต่เหตุการณ์นี้
ให้เกิดกับชีวิตเราไม่ได้เสมอไป

ความรักก็มีชีวิตเหมือนดอกไม้
และไม่มีแจกันใด
จะถนอมความงามของดอกไม้ไว้ได้ตลอดไปหรอก

ความเสียใจไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่หากเสียใจไม่จบสิ้น นั่นจึงแปลก

ในขณะที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์
มันก็ต้องไม่ลืมที่จะหมุนรอบตัวเอง
ในขณะที่เธอรักใคร
เธอก็ต้องไม่ลืมที่จะรักตัวเอง

หากคนเรามีความรักได้ครั้งเดียวในชีวิต
นั่นจึงควรร่ำร้องเมื่อรักได้สูญหาย
แต่ความจริงแล้ว
คนเรามีความรักได้หลายพันครั้งตลอดทั้งชีวิต

เมื่อเธอรู้สึกว่าตัวเองไม่เหลือใคร
นั่นคือสัญญาณเตือนว่า
เธอควรให้ความสำคัญกับตัวเองได้แล้ว

คนเราสามารถจำอะไรก็ได้
แต่เมื่อจำแล้ว
กลับไม่สามารถเลือกที่จะลืมบางส่วนของมันได้
แต่เลือกที่จะนึกถึงมันให้น้อยที่สุดได้

ไม่ว่าความรักจะทำให้วันนี้ของเธอปวดร้าวยังไง
แค่ครั้งหนึ่ง เธอเคยได้รักจากคนที่อยากรัก
เธอก็โชคดีมากแล้ว

สำหรับบางคน
ถ้าจะรัก ก็ยังไม่เจ็บ ถ้าเคยรัก ก็แค่เคยเจ็บ
แต่ถ้ายังรัก ก็จะยังเจ็บ

ขึ้นอยู่กับว่า เธออยากเป็นแค่คนที่เคยเจ็บ
หรืออยากเป็นคนที่ยังเจ็บอยู่ทุกวัน

เธอเคยฝืนใจรับใบปลิว
ที่แจกตามหน้าห้างสรรพสินค้า
เพราะเกรงใจคนแจกมันและ บางที
อาจมีคนรับความรักของเธอไป
เพราะเหตุผลอย่างเดียวกัน

สุดท้าย เขาก็ทิ้งมัน
เหมือนกับที่เธอทิ้งใบปลิวนั่นแหละ

คนบางคน
เป็นเพื่อนที่ดีได้ เป็นพี่ที่ดีได้ เป็นน้องที่ดีได้
แต่เป็นคนรักที่ดีไม่ได้
ก็ควรให้เขาเป็นในสิ่งที่เขาเป็นได้ และเป็นได้ดี

หลายๆสิ่งในโลก
ล้วนถูกสร้างมาให้มีด้านตรงข้าม
มันจึงต้องมีจุดผกผันแปรเปลี่ยน
ความรักก็มีจุดเปลี่ยนของมัน
จึงเป็นเรื่องจำเป็น ที่เธอต้องยอมรับมันให้ได้

แก้วกาแฟใบโปรด แตกไปเสียแล้ว
เก็บไว้ก็บาดมือ
ความรัก จากไปเสียเสียแล้ว
เก็บไว้ก็บาดใจ

สำหรับความรักที่ผ่านมา
ควรแยกให้ได้ว่า อะไรควรจำไว้ประทับใจ
อะไรควรจำไว้เป็นบทเรียน

ค่ำคืนแห่งความเงียบเหงา
ไม่ได้ยาวนานไปกว่าคืนไหนๆ หรอก
อีกไม่นานก็เช้า ชีวิตก็วุ่นวายเหมือนเดิมแล้ว

หนังสือเล่มไหนที่อ่านแล้วไม่ถูกใจ
ก็ไม่ต้องกลับไปอ่านรอบสอง
ความทรงจำที่นึกถึงแล้วเจ็บปวด
ก็อย่าไปนึกถึงมันเป็นครั้งที่สอง

เมื่ออ่อนแอจนถึงที่สุด
ความเข้มแข็งจะเข้ามาแทนที่

เมื่อเธออยากให้หัวใจมีความรัก
ก็ต้องยินยอมที่จะให้มันเจ็บปวด

เหมือนเด็กที่อยากจะเดิน
ก็ต้องยินยอมที่จะล้มลุกคลุกคลาน

ความรู้สึกสูญเสีย ร้ายแรงเสมอ
สำหรับคนที่ไม่ยอมรับความจริง


ความเจ็บปวด
ไม่ได้ต้องการเวลาเพียงไม่กี่วันในการรักษา
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่า
เธอจะเลิกเจ็บปวดเมื่อไหร่

แต่มันอยู่ที่ว่า
เธอจะใช้ชีวิตในขณะที่ยังเจ็บปวดอย่างไรต่างหาก

คนที่ควรรัก อาจไม่ใช่คนที่เธอรัก
อาจไม่ใช่คนที่รักเธอ
อาจไม่ใช่คนที่รักกันมาก่อน
อาจไม่ใช่คนที่กำลังรักอยู่
อาจไม่ใช่คนที่คิดจะรัก
แต่คนที่ควรรัก
อาจเป็นคนที่เธอยังไม่เคยรักเลยก็ได้

ทำไมต้องเรียกร้องความรักจากคนๆเ ดียว
ในเมื่อเธอก็มีความรักจากคนรอบข้างมากมาย

ไม่มีความเจ็บปวดครั้งใด
ไม่ให้ประโยชน์กับชีวิต
ขึ้นอยู่กับว่า
เธอรู้จักที่จะใช้ความเจ็บปวดนั้นทำให้เธอเข้มแข็ง
หรือปล่อยให้มันทิ่มแทง จนเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า

การเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นง่ายที่สุด
และยอมรับได้ยากที่สุด
แต่เมื่อเรายอมรับได้แล้ว
มันก็จะเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด

ความรักไม่ได้ทำร้ายใคร
แต่คนเรามักใช้มันทำร้ายตัวเอง

เด็กที่เพิ่งหกล้ม
อย่าไปถามเขาว่า
เจ็บมากมั้ย หายเจ็บหรือยัง
นั่นจะทำให้เขายิ่งร้องไห้

หัวใจที่เจ็บปวด
ก็อย่าไปถามซ้ำๆ ถึงความเจ็บนั้นเลย
ความเจ็บปวดที่ร้ายแรงที่สุด คือ
ความเจ็บปวดที่เธอเฝ้าคิดถึงแต่มันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ถ้าเธอเคยล้ม
เธอก็จะเดินอย่างระมัดระวังมากขึ้น
นั่นเองคือเหตุผลว่า
ทำไมคนเราจึงต้องเจ็บปวดเสียบ้าง

ถ้าความรักของเธอเหมือนดอกไม้
หัวใจเขา เหมือนทะเลทราย

คงเปล่าประโยชน์ ที่เธอจะปลูกดอกไม้ให้งดงามในทะเลทราย

ระหว่างการเดินทาง
หากมีเพื่อนร่วมทางสักคน
ก็นับว่าเป็นโชคดีของเธอแล้ว
และเมื่อเขาจำเป็นต้องแยกไป
เธอควรขอบคุณที่เขาร่วมทางมา
ไม่ใช่ตัดรอนต่อว่า ที่เขาแยกทางไป

ว่ากันว่า ช่วงชีวิตของคนเรามีจำกัด
ยิ่งใช้เวลาไปกับความเศร้าโศกนานเท่าไหร่
ก็จะเหลือช่วงเวลาที่ดี ลดน้อยลง

แอบรัก


http://4inibg.blu.livefilestore.com/y1pSj7rTZlADYmxYHWJmeJD25mooX-sgQIiJsOERnV5antfS9EK77X9BgI7Fhsha93Cu4Mx81ODht4EuzQx_WcnoXbsCQdKNOqa/451435-topic-0.jpg?psid=1


ฉันชอบความรู้สึกของการได้ "แอบรัก" ใครซักคน
หนึ่งชีวิตของคนเราถ้าได้รู้สึกถึง... "ความรักแบบไม่ครอบครอง" บ้าง

ก็คงจะดีไม่น้อย โลกคงไม่วุ่นวายไม่ยื้อแย่งไม่ครอบครอง

และความรักก็คงจะไม่ "เห็นแก่ตัว" อย่างที่ดำเนินอยู่

ขึ้นชื่อว่า "แอบรัก" แล้วล่ะก็...

ฉันเชื่อว่ามันไม่ใช่อาการที่ต้องการจะเปิดเผยตัวไม่อยากให้ใครได้รู้ได้เห็น

ความสุขเกิดขึ้นได้ในมุมเงียบๆและปราศจากการครอบครอง

ความรักแบบเงียบกริบสอนให้คนปล่อยวาง และหัวใจอ่อนโยน

ไม่ปรารถนาอะไรมากไปกว่าการได้รัก

และมากที่สุดก็คงจะเป็นแค่ให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่า

..."รัก"…

เท่านั้นเองที่ความรักต้องการ...

คงเหมือนกับไม่ขีดไฟแอบหลงรักดอกทานตะวัน

สุดท้ายมันก็ต้องการแค่เพียงแค่ให้ดอกทานตะวันหันมองแสงอันน้อยนิดของมัน...

แม้จะเป็นแสงสุดท้ายที่ถูกจุดขึ้นเพื่อดับลงตลอดกาลก็ตาม


เชื่อไหม???...

ฉันเคยรู้จักคนๆนึงที่แอบรักใครอีกคนได้นานเป็นปีๆ

โดยไม่เคยแสดงตัวต่อความรักของเขา

หญิงสาวใช้โทรศัพท์เป็นสื่อแสดงความรู้สึกตลอดมา

ทุกคืน...เธอจะยกหูโทรหาเขา แม้บางครั้งด้วยคำพูดสั้นๆแค่ว่า

"นอนหลับฝันดี" เท่านั้นก็ตาม

ชายหนุ่มไม่เคยเห็นหน้าเธอ

ทั้งที่ความเป็นจริงนั้นเธออยู่รอบตัวเค้าตลอดเวลา

...เธอเคยเดินผ่านเขาใกล้กันแค่เอื้อมมือคว้า

แต่เขาไม่รู้จักเธอ...

...เธอเคยสบตาเขาแต่เขาไม่เห็นแววตาเธอ...

...เธอเคยยืนตรงหน้าเขาแล้ว(แอบ)ฟังเขาพูดคุยกับเพื่อนของเขา

แต่เค้าไม่ได้พูดกับเธอ...

ทั้งหมดเป็นความสุขของหญิงสาว...

"สุขที่ได้เห็นเขาโดยที่เขาไม่จำเป็นจะต้องเห็นเธอ"

การติดต่อของเค้าและเธอสิ้นสุดลง

ในวันที่ชายหนุ่มมีคนรักที่แสดงตัวอย่างชัดเจน

เค้าเลือกที่จะรักคนอื่นเพราะในความคิดของเค้า

...หญิงสาวไม่มีตัวตน...

หญิงสาวห่างออกมาไม่อนุญาตให้ตัวเองเข้าใกล้เค้าอีก

เธอคำนึงถึงความถูกต้องและ...ทุกอย่างย่อมมีเจ้าของเมื่อถึงเวลา

...ความรักของเธอบริสุทธิ์เกินกว่าจะทำร้ายใคร...

ในเมื่อชายหนุ่มเลือกที่ปักดอกไม้อื่นลงบนแจกันของเค้า

ต่อให้เธอสวยงามกว่าดอกไม้ดอกนั้นเพียงใดเธอก็ไม่อาจแสดงตัวได้...

แต่เธออนุญาตหัวใจให้รักเค้าได้เท่าเดิมและคงจะไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้

เพราะ "รักแท้" สอนให้เธอมีความสุขได้

แม้ "ไม่ได้เป็นเจ้าของ" หรือ "ถูกครอบครอง"

และ "รักแท้" นี่เองที่จะทำให้ดอกไม้อย่างเธอไม่มีวันแห้งเหี่ยว

"แม้ว่าเธอจะเป็นดอกไม้ไร้ชื่อ...

ที่ไร้แจกันตลอดไป...ก็ตาม"

ความรักเหมือน นาฬิกา






ใครที่ใส่นาฬิกาบ่อย ๆ จนติด
คงจะรู้สึกได้ . . . ในวันที่นาฬิกาหายไปจากข้อมือ
ฉันเอง . . . ก็เป็นคนที่ผูกนาฬิกามาตลอด . . .
หากวันไหนลืมจะรู้สึกว่า . . . บางอย่างมันหายไป
มันว่าง ๆ และขัดเขินทุกครั้ง . . . ที่ยกข้อมือที่ว่างเปล่าขึ้นมาดู



เมื่อราวสองปีก่อน . . . ที่นาฬิกาเรือนโปรดของฉันพัง
ด้วยความไม่มีสติ . . . ฉันเอาข้อมือไปทุบผนังห้องน้ำเล่น ๆ
โชคร้าย . . . ที่มือไม่เป็นอะไร นาฬิกาต่างหากที่พินาศ .. กระจกร้าว



ฉันถอดมันออกวางไว้ . . . ไม่ยอมเอาไปซ่อม
ด้วยว่า . . . รู้สึกถึงภาพเก่า และวันเวลาที่เก็บอยู่ในนั้น
ฉัน . . . เลิกใส่นาฬิกา และพบว่า ตัวเองมีอาการยกข้อมือเก้อ
เก้ออ . . . อยู่เป็นเวลานานพอดู



ความเคยชินของคนเรา เกิดขึ้น . . .
เมื่อเราทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นประจำ . . . ในระยะเวลานานพอควร
และยังคงความเคยชินอยู่
เมื่อสิ่งหนึ่งสิ่งนั้นหายไปในระยะแรก ๆ



จนเวลาผ่านไปนาน . . .
ฉันจึงเริ่มชิน . . . กับการแอบมองเข็มนาฬิกาบนข้อมือคนอื่น
เวลาผ่านไป พร้อมกับบาดแผลที่เริ่มเลือนหาย
ฉันคิดโง่ ๆ ว่า . . . ภาพเหล่านั้นจะตายไปพร้อมนาฬิกา แต่มันไม่ใช่



ฉันตัดสินใจซ่อมนาฬิกา
เมื่อมันกลับมาวันแรก ๆ ฉันรู้สึกไม่คุ้น
จนถึงตอนนี้ . . . ก็ยังไม่คุ้น
ฉันยังแอบมอง . . . นาฬิกาบนข้อมือคนอื่น อยู่เหมือนเดิม
ฉันรู้สึกเขินแกมขำทุกครั้ง . . . ที่แอบมองข้อมือคนอื่น
ทั้ง ๆ ที่มีนาฬิกาอยู่บนข้อมือของตัวเอง



ฉันนึกถึงใครบางคน . . . ที่มักจะปรากฏตัวพร้อมรอยยิ้มเสมอ ๆ
ในบางช่วง ที่เขาหายหน้าหายเสียงไป . . .
ฉันรู้สึกขาด ๆ แต่ก็เพียงชั่วเวลาสั้น ๆ
ในบางครั้ง . . . ฉันพอใจที่มีเขาอยู่ใกล้ ๆ
ในวันที่ไม่แข็งแรง . . .



แต่ . . . ในบางครั้งฉันกลับรู้สึกพอใจ
กับการได้เดินคนเดียว . . . เดี่ยวเดี่ยวในวันว่าง
หรือเป็นความผูกพัน หรือเป็นเพียงความเคยชิน
หัวใจฉัน . . . ยังตอบคำถามได้ไม่กระจ่างชัดนัก



คนเราจะรู้ค่าก็ต่อเมื่อ . . . สูญเสียสิ่งนั้นไป
ฉันมักได้ยินใคร ๆ พูด
แต่ . . . ฉันกลับคิดว่า หากฉันยังมองไม่เห็น
ฉันน่าจะยอมเสียไปดีกว่า . . . เพื่อให้ซึ้งถึงคุณค่านั้น
ฉัน . . . ไม่อยากเอาเปรียบเขา
หากจะรั้งเขาไว้ด้วยความคุ้นเคย ที่ไม่ใช่ความผูกพัน
ฉัน . . . ไม่อยากโกหกตัวเอง
หากจะรั้งเขาไว้ . . . ด้วยความไม่แน่ชัด



ฉันมีคำถาม . . . ที่ยังขบไม่แตกกับคำว่า . . .
ผูกพัน หรือว่าจะเป็นแค่คุ้นเคย
บางที . . . มันอาจจะเป็นการดี
หากฉันจะอยู่ห่าง ๆ หรือตัดขาด
เพื่อให้รู้จัก . . . หัวใจของตัวเองมากขึ้น
กับใครบางคน . . . ที่ขาดหายไปจากชีวิต
อาจเป็นเหมือน . . . นาฬิกาที่ขาดสาย
อาจรู้สึกแปลบ ๆ และมองหากับการหายไปในช่วงแรก
แต่ไม่นาน . . . คงจะชิน

ในเมื่อไม่รักแล้ว ก็ปล่อยมันไปเถอะนะ T_T




     

มันเป็นเรื่องธรรมดา หากความรักของคนสองคนเดินมาถึงทางตัน ไม่สามารถจูงมือกันไปได้ตลอดรอดฝั่ง เหมือนอย่างที่วาดฝันไว้ ก็ถึงเวลาของการ "เลิกรา" แต่มีบางคู่ที่รู้ทั้งรู้ว่ายังไงซะรักครั้งนี้ก็ไปด้วยกันไม่รอด ก็ยังพยายามฝืน ยื้อ ดันทุรัง เพื่อจะรักษาสถานภาพของคำว่า "คนรัก" เอาไว้ให้นานที่สุด จนสุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ต้องจบลง และจากลากันไปด้วยความรู้สึกไม่ดี

           เชื่อเถอะว่า...จากคนเคยรักกันจนหมดใจ หากวันใดวันหนึ่ง ใครคนใดคนหนึ่งหมดใจหรือปันใจ อีกฝ่ายต้องรับรู้หรือสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น เพราะอะไร ๆ ก็คงไม่เหมือนเคย...จากเดิมที่ไม่ว่าจะเอาทำอะไร เขาหรือเธอก็จะสนับสนุน เห็นดีเห็นงาม และคอยให้คำปรึกษา เมื่อหมดรักกลับขวางไปซะทุกอย่าง แถมบางทียังชอบพูดจาประชดประชันเสมอ หรือจากเดิมที่นึกถึงเราเป็นคนแรก ไม่ว่าจะทำอะไรก็คอยถามไถ่หรือขอคำปรึกษา กลับกลายเป็นเราคือคนสุดท้ายที่รู้เรื่องของเขาหรือเธอ เป็นต้น
           ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าคุณทั้งคู่จะพยายามฝืนต่อไปแค่ไหน ยื้อด้วยวิธีอะไร สุดท้ายทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องจบลงอยู่ดี ทำไมไม่หันหน้าคุยกันว่า ณ ตอนนี้ความรู้สึกที่มีให้กันและกันเป็นอย่างไร รู้สึกเฉย ๆ เหมือนเป็นเพื่อน รู้สึกเหมือนเป็นพี่เป็นน้อง หรือความรู้สึกแบบคนรักมันค่อย ๆ หายไปตามกาลเวลา ฯลฯ จากนั้นอาจจะลองมาปรับเปลี่ยนเติมความหวานให้กันและกันดู เผื่อความรู้สึกต่าง ๆ จะกลับมาเหมือนเดิม หากมันยังไม่ดีขึ้น ทางเลือกสุดท้ายคงเป็นการตัดสินใจ "เลิกรา" จากกันด้วยดี 
           จริงอยู่ว่าการจากลาใครสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะความพันผูกที่มีให้แก่กันและกัน ความรู้สึกดี ๆ ที่เคยทำร่วมกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะ "ตัดขาด" กันไปได้ง่าย ๆ ทางที่ดีอยากให้คุณทั้งคู่ลองคิดถึงวันข้างหน้า จะเจ็บตอนนี้ หรือเจ็บปวดช้ำใจต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด 
           ทำไมไม่เก็บช่วงเวลาดี ๆ ที่เคยมีด้วยกัน ไว้ให้เป็นความทรงจำดี ๆ ที่หวนคิดถึงทีไรแล้วใจยิ้มได้ทุกครั้ง เพียงแค่ยอมเป็นคนใจแข็งพอ ตัดใจหันหลังเดินจากมาตอนนี้ ดีกว่าเจ็บช้ำต่อไปเรื่อย ๆ และคิดซะว่าอย่างน้อยเราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ มาแค่ได้รู้จักกัน แต่ไม่ได้เป็นคู่กัน

สอนวิธีการเล่นฮูล่าฮูป


ใครๆก็คงทราบดีแล้วว่า ฮูล่าฮู๊ป นี่ สามารถรถพุงได้จริง (ลองหา gogle ดูนะ) อันนี้คงไม่ต้องเถียงกัน
แต่มีปัญหาที่ว่า อยากเล่นแต่เล่นไม่เป็นน่ะสิ่  ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เล่นไม่เป็น ก็ลองหาเทคนิคต่างๆนาๆ และพยายามจับจุดให้ได้ว่าเล่นยังไง ในที่สุด ก็ค้นพบ
-ส่วนใหญ่ที่เล่นกันไม่ได้นั้นมาจากการจับจังหวะไม่ได้ว่าจะหมุนเร็วหมุนช้า หรือหมุนทิศไหน อย่างไร  ซึ่งผมก็เป็นอย่างนั้น หมุนสองรอบ ก็ร่วงแล้ว หมุนเร็วๆ ก็ร่วง หมุนช้าๆก็ร่วง  ทีนี้ ก็คิดว่าทำอย่างไรจึงจะจับจังหวะมันได้
วิธีการ
เอา ฮูล่าฮูป มาคล้องที่แขนแล้วก็แกว่งมัน (เปรียบเหมือนท่อนแขนเป็นเอว) แล้วก็หมุนๆ ไปนั่นแหล่ะ เราก็จะรู้แล้วว่า อ้อ…. ต้องแกว่ง โยก แขนประมาณนี้นะมันถึงจะหมุนได้
ต่อมา
มาลองกับเอวของเรา  (กรณีผมนะำ ทำครั้งแรก มันทำได้เลย !!!!!!)  หมุนได้จริงๆ ประมาณครึ่งนาทีีก็หยุดเล่น (หยุดเล่นนะครับไม่ได้ตก) งง กับตัวเองอย่างมาก ว่าตรูทำได้ไงวะ   ทีนี้มาลองอีกหน ทำไม่ได้แล้ว  5555   แต่วันต่อมาก็มาหมุนกับแขนใหม่ จากนั้นก็ค่อยๆเริ่มชำนาญแล้ว

เรื่อง ฮาๆ ของอวัยวะในร่างกาย


ตา >> อวัยวะที่ใช้ในการมอง  มักจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี
หู >> อวัยวะที่ใช้ในการฟัง  ส่วนมากจะมีน้ำหนักเบา เพื่อสะดวกในการพกพา
ปาก >>  อวัยวะที่ใช้ในการพูด   ส่วนมากจะอยู่ไม่ตรงกับใจ
จมูก >> อวัยวะที่ใช้ในการหายใจ  ถ้ายื่นเข้าไปในเรื่องของคนอื่นเขาเรียกว่า ..แส่
บ่า-ไหล่ >> อวัยวะที่อยู่เคียงคู่กันมา ดังที่เรียกว่า “เคียงบ่าเคียงไหล่” มีให้คนคนขี้เหงาได้ซบ ถ้าเป็นจับกังก็ใช้แบกหาม ข้าวสาร ปูน…
หัวใจ >> อวัยวะที่ใช้สูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่างกาย คนที่เจ้าชู้ส่วนใหญ่มักจะเก็บตัวจริงไว้ แล้วถ่ายเอกสารไว้ใช้อย่างพร่ำเพรื่อ
ปอด >> อวัยวะที่ใช้ฟอกโลหิต  แต่ถ้าปอดแหกจะเก็บความกล้าหาญไว้ไม่ได้
นม >> อวัยวะที่สุภาพสตรีอยากให้ยื่นไปข้างหน้ามากกว่าพุง
ศอก >> ข้อต่อระหว่างแขนท่อนบนกับแขนท่อนล่าง ใช้เป็นอาวุธประจำกาย หรือใช้สำหรับรองน้ำดื่มสำหรับหญิงที่มาทีหลัง
ตัว >> เป็นชิ้นส่วนที่ใหญ่ของร่างกายมีไว้ให้ส่วนอื่นได้พักพิง มักจะลืมกันมากในเวลาได้ดิบได้ดี
สะดือ >> เป็นอวัยวะที่ใช้เชื่อมต่อกับแม่ตอนอยู่ในครรภ์ เมื่อใดใช้วัดความสุภาพ…ถ้าอยู่ต่ำกว่าสะดือ ถือว่าทะลึ่ง
ขาอ่อน >> เป็นส่วนที่เชื่อมต่อมาจากสะโพก  มักนิยมใช้ประกวด เพราะมองเห็นง่ายกว่าสมอง
หัวเข่า >> เป็นข้อต่อระหว่างขากับแข้ง เป็นอาวุธประจำกาย ผู้หญิงใช้โจมตีจุดอ่อนของผู้ชาย และบางคนใช้เช็ดน้ำตาเวลาเศร้า โดยเฉพาะคนที่แอบรักผัวชาวบ้านเขา
ขนหน้าแข้ง >> ใช้วัดระดับฐานะทางการเงิน ยิ่งรวยมาก ขนหน้าแข้งจะร่วงน้อย
เท้า >> เป็นอวัยวะที่ใช้ในการยืน  เดิน  หรือเป็นอวัยวะที่ใช้ผลัก หรือที่เรียกว่ากันทั่วไปว่า..ถีบ

ความรัก ไม่จำเป็นต้องพูดพร่ำเพ้อ


ขอให้ชั้นดูหน้าลูกหน่อยได้มั๊ยคะ”
คุณแม่คนใหม่เอ่ยขึ้น เมื่อห่อผ้าน้อย ๆ อยู่ในอ้อมกอดเธอ
เธอค่อย ๆ คลี่ผ้าที่ห่อออกเพื่อมองใบหน้าเล็ก ๆ
เธอกรีดร้อง!!! หมอต้องอุ้มเด็กออกไปอย่างรวดเร็ว
เด็กทารกที่เกิดมาไม่มีใบหู
…กาลเวลาพิสูจน์ว่าการได้ยินของเจ้าหนูไม่มีปัญหา
ปัญหามีเฉพาะสิ่งที่มองเห็นภายนอก คือใบหูที่หายไป
หลายครั้งที่เจ้าหนูกลับจากโรงเรียนแล้ววิ่งมาซบอกแม่
เธอรู้ว่าหัวใจลูกปวดร้าวแค่ไหน
เจ้าหนูพูดโพล่งออกมาอย่างน่าเศร้า
“พวกเด็กตัวโต พวกมันล้อผมว่านายตัวประหลาด”
เจ้าหนูเติบโตขึ้น หล่อเหลา เป็นที่รักของเพื่อน ๆ
เค้ามีพรสวรรค์ในด้านอักษรศาสตร์ วรรณคดี และดนตรี
เค้าอาจได้เป็นหัวหน้าชั้น แต่เพราะเจ้าสิ่งนั้น…
“ลูกต้องพบปะกับผู้คนบ้างนะลูก” แม่กล่าวด้วยความสงสาร
พ่อของเด็กชายปรึกษากับหมอประจำครอบครัว
“ผมสามารถปลูกถ่ายใบหูได้ครับ ถ้ามีผู้บริจาค
แต่ใครล่ะจะเสียสละใบหูเพื่อเด็กน้อยคนนี้” คุณหมอกล่าว
2 ปีผ่านไป พ่อบอกกับลูกชาย
“ลูกเตรียมตัวไปโรงพยาบาลนะ
พ่อกับแม่หาคนบริจาคใบหูที่ลูกต้องการได้แล้ว แต่นี่เป็นความลับ”
การผ่าตัดสำเร็จด้วยดี
คนคนใหม่เกิดขึ้นเค้ากลายเป็นผู้มีพรสวรรค์
เป็นอัจฉริยะในโรงเรียน ในวิทยาลัย จนเป็นที่กล่าวขานกันรุ่นต่อรุ่น
ต่อมาเขาได้แต่งงานและทำงานเป็นข้าราชการในสถานทูต
วันหนึ่งชายหนุ่มถามผู้เป็นพ่อ “พ่อครับใครเป็นคนมอบใบหูให้ผม
ใครช่างให้ผมได้มากมายแต่ผมไม่เคยทำอะไรเพื่อเค้าได้เลยสักนิด”
“พ่อไม่เชื่อว่าลูกจะตอบแทนเค้าได้หมดหรอก
เรื่องนี้เป็นความลับ เราตกลงกันแล้ว” พ่อตอบ
หลายปีที่มันยังคงเป็นความลับ
…..แต่แล้ววันหนึ่ง วันที่มืดมิดที่สุดผ่านเข้ามาในชีวิตลูกชายเค้ายืน
ข้างพ่อใกล้หิบบศพของแม่
พ่อค่อย ๆ ลูบผมแม่อย่างช้า ๆ และนุ่มนวล
ผมสีน้ำตาลแดงถูกเสยขึ้นจนมองเห็น
..แม่ไม่มีใบหูใบหูของแม่ถูกตัดไป..
พ่อกระซิบผ่านลูกชาย “แม่บอกพ่อว่า เธอดีใจที่ได้ทำอย่างนี้
เธอไม่เคยตัดผมอีกเลยไม่มีใครมองเห็นว่าเธอไม่สวย จริงมั๊ย”
“จงจำไว้ สิ่งมีค่าที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่การมองเห็น
หากแต่อยู่ที่สิ่งที่เรามองไม่เห็นความรักที่แท้จริง
ไม่ได้อยู่ที่เราได้ทำอะไรแล้วมีคนรับรู้
หากแต่อยู่ที่สิ่งที่เรากระทำแล้วไม่มีใครรับรู้ความรัก
บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูดพร่ำเพรื่อ”


26 วิธี รัก ให้เป็น ^^


1. จงใช้เวลาแก่ความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ เติบโตอย่างช้าๆ อย่าใจเร็วด่วนได้ ความชอบพออย่างแท้ จริงจะค่อยๆ เป็นไปอย่างช้าๆ

2. จงซื่อสัตย์และเปิดเผยกับคนรัก การโกหก ไม่ซื่อสัตย์จะทำลายมิตรภาพ

3. จงกระทำต่อผู้อื่นเหมือนอย่างที่คุณอย่างให้ผู้อื่นเขากระทำต่อตัวคุณ

4. นึกไว้เสมอว่าคนรักของคุณไม่ใช่คนดีพร้อม ไม่มีใครดีหมดทุกอย่าง บางทีข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ของคนรัก ก็กลายเป็นความน่ารักได้ ถ้าคุณใจกว้างพอ

5. จงภูมิใจในความสำเร็จของคนที่คุณรัก อย่านำไปเปรียบเทียบกับความสำเร็จของคุณหรือคนอื่นๆ เป็นอันขาด จงมองเฉพาะที่คนรักของคุณทำได้ จะมากกว่าคุณหรือน้อยกว่าคุณก็ "ดีมาก" ทั้งนั้น

6. อย่าคาดหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นเสมอ แม้คนที่กำลังรักกันแทบจะกลืนกิน ก็ยังมีข้อขัดแย้งหรือไม่ลงรอยได้บ้าง

7. ถ้าคุณพบคู่รักบางคู่คุยว่า เขาไม่เคยทะเลาะกันเลย ก็อย่าไปใส่ใจมากนัก เพราะเขาอาจไม่ได้ พูดกันเลย หรือไม่รักกันเลยก็ได้

8. ในกรณีที่ยังไม่มีคู่รักที่แท้จริง จงเปิดใจให้โอกาสพบปะผู้คนอื่นๆ ให้มากขึ้น คุณจะได้มีโอกาสพบคนที่คุณอยากรักจริงๆ ได้

9. จงมีส่วนร่วมต่อการสร้างความสัมพันธ์ อย่าคิดถึงความได้เปรียบเสียเปรียบ ถ้าคุณให้ของขวัญราคาแพงแก่คนรัก แต่เขาตอบแทนด้วยของขวัญราคาด้วยกว่า ก็ไม่เป็นไรเพราะเขาอาจไม่ สามารถให้อะไรกับตัวคุณได้เท่าที่คุณคาดหวังเอาไว้ ฝ่ายที่รับของจากคนรัก จงหาทางตอบแทนเสมอ แม้จะไม่เท่าและไม่เหมือนกันก็ไม่เป็นไร อย่าเป็นฝ่ายรับฝ่ายเดียว

10. จงเป็นนักฟังที่ดี แสดงว่าคุณเอาใจใส่และสนใจเขา เท่ากับแสดงว่าเขาเป็นคนสำคัญ

11. จงยิ้มกับคนรักเสมอ การยิ้มทำให้รู้สึกว่าคุณเป็นคนมีมิตรไมตรี

12. อย่าเปิดเผยความลับ หรือนินทาคนรักลับหลัง เพราะจะเป็นพิษต่อความรักอย่างยิ่ง

13. อย่าใช้ความรักไปหลอกลวงคนอื่น

14. จงถามเพื่อนที่สนิทว่า คุณมีจุดเด่นที่น่าประทับใจ หรือจุดอ่อนตรงไหนบ้าง ทุกคนมีจุดอ่อนในตัว คุณจะได้พัฒนา ปรับปรุงตัวเองให้น่ารักมากขึ้น

15. จงให้เวลาสำหรับความรักและคนรัก อย่าโหมทำงานมาก หรือออกสังคมมากไป จนทำให้สูญเสียคนที่เรารักและห่วงใยไป

16. จงบอกคนรักว่า เขาทำให้คุณสุขหรือสบายใจอย่างไร เขาพอใจที่จะได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น เช่น "อยู่กับคุณแล้วรู้สึกสบายใจและมั่นใจดีมาก"

17. อย่าพูดตัดพ้อ หรือต่อว่าโดยไม่คิด เช่น "คุณผิดเวลาอีกแล้ว" หรือ หรือ "คุณไม่รักฉันจริง" แต่จงบอกคนรักว่า "ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ใจคิดถึงคุณจัง" ทำนองนั้น

18. อย่าท้อแท้เมื่อเกิดความเข้าใจผิดหรือขัดใจกัน จงทำสิ่งที่เลวร้ายให้กลายเป็นสิ่งที่ดีงามต่อไป โดยมุ่งมั่นถึงการรักษาสัมพันธภาพที่ดีเอาไว้ และพยายามควบคุมช่วงเวลาเลวร้ายเหล่านั้นเอาไว้ ให้ได้

19. เรียนรู้อารมณ์ของคนที่คุณรัก อย่าหวังว่าเขาจะสดชื่น หรือเอาใจเก่งตลอดเวลา ในยามเขาเคร่งเครียดเหน็ดเหนื่อยจงอย่าสั่ง แต่จงให้ความสบายกายและความสบายใจแก่เขาตลอด
ต่อท้าย #1 27 พ.ย. 2552, 19:10:46
20. อย่าลืมคำชมเชย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีแก่ทุกคน จงชมคนที่คุณรัก คำชมจะทำให้ความรักยั่งยืน

21. จงมีกิจกรรมร่วมกันที่สนุกสนาน เช่น การเดินทางท่องเที่ยวที่ไม่ลำบากนัก เล่นกีฬาบางอย่างด้วยกัน หรือเดินเล่นด้วยกัน เป็นต้น

22.กิจกรรมบางอย่างที่เราไม่ชอบ แต่คนรักชอบก็น่าจะลองกิจกรรมเหล่านั้นดูบ้าง

23. สนใจและช่วยจัดการในสิ่งจำเป็นของอีกฝ่ายหนึ่ง เช่น ถ้ารู้ว่าอีกฝ่ายจะเดินทางไปไกล จงคิดว่าเขาน่าจะต้องการอะไรเพิ่มเติมบ้าง จงช่วยจัดหาหรือเพิ่มเติมให้เขานั้นแสดงถึงความเอาใจใส่ เขาอย่างแท้จริง

24. อย่าคาดหวังว่าคนรักจะให้สิ่งที่คุณต้องการได้ครบถ้วน เพราะจะทำให้คุณผิดหวัง และเป็นอันตรายต่อความรัก

25. อย่าดูหมิ่นหรือดูถูกคนรักว่าด้อยกว่า หรือเป็นหนี้บุญคุณ จงมองคนรักเหมือนคนที่เพิ่งพบและรู้ จักกัน และรักกันใหม่ๆ ทำให้เกิดความสนใจใยดีอยู่เสมอๆ ทุกๆ วัน ไม่เกิดความเบื่อหน่าย จำเจ

26. อย่าบีบบังคับความรัก เพราะความรักไม่อาจสร้างขึ้นตามความต้องการได้ แต่จงปล่อยให้มันพัฒนาไปตามเงื่อนไขของมันเอง อาจจะเริ่มจากมิตรภาพก่อนแล้วกลายเป็นความรักก็ได้

หลายๆ คนอ่านแล้วบอกว่าทำได้ยาก แต่อยากจะบอกว่า ไม่มีสิ่งใดยากเกินไปหรอก ถ้าเราทำเพื่อการพัฒนาตนเอง และพัฒนาความรัก จงใช้หลักง่ายๆ อีก 4 ข้อ คือ

1.ฝืนทำบ่อยๆ แรกๆ ทำไม่คล่อง ก็จงฝืนทำไป
2.ฝึกบ่อยๆ จนเป็นนิสัยที่ดีงาม
3.ข่มใจ อย่าเพิ่งเลิก อย่าเพิ่งท้อถอย ถ้าผลออกมาไม่ถูกใจ หรือเกิดความโกรธหรือเบื่อหน่ายกลางคันเสียก่อน ก็จงข่มใจทำต่อไป ช่วยทำให้เกิดการฝืนและการฝึกบ่อยๆ ได้ดีขึ้น
4.ลดตัวเองลง ต้องหมั่นลดตัวเอง อย่าอีโก้สูงนัก หรือคิดถึงแต่ตัวเองหรือมาตรฐานของตัวเองตลอดเวลา เพราะจะทำให้คุณทำสิ่งใหม่ๆ ที่ดีๆ ไม่ได้เลย

ลองดูนะ แล้วคุณจะมีความรักที่งดงามในหัวใจ และความรู้สึกดี ๆ ให้กับคนที่คุณรัก เพราะความรู้สึกนี้ เป็นความสุขที่ใครๆ ก็อยากได้ ขอให้ทุกคนมีความรักที่สวยงามนะ

รักให้เป็นต้องใช้สติ และสมอง


แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
วันนักบุญวาเลนไทน์ (Saint Valentine's Day) หรือที่รู้จักกันว่า "วันวาเลนไทน์" (Valentine's Day) ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันประเพณีที่คู่รักบอกให้กันและกันทราบเกี่ยวกับความรักของพวกเขา โดยเทศกาลวาเลนไทน์ เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในแต่ละประเทศจะมีประเพณีหรือการปฏิบัติที่แตกต่างกันบ้าง แต่โดยรวมแล้ว จะมีการเฉลิมฉลองและเป็นการแสดงถึงความรัก
สำหรับบรรยากาศวันแห่งความรักในบ้านเรา แน่นอนว่าหนีไม่พ้นเรื่องของหนุ่มสาวที่พิศมัยบรรยากาศแห่งรักเสียเหลือเกิน แม้ดอกไม้ในวันนี้จะมีราคาแพงเพียงใด เด็กและวัยรุ่นต่างยินยอมควักเงินในกระเป๋าจ่ายเพียงเพราะมองว่า ปีนึงมีแค่หนเดียว ที่สำคัญความรักที่วัยรุ่นนึกถึงคงหนีไม่พ้นความรักในรูปแบบชู้สาว จนลืมไปว่าเรายังมีคนสำคัญอื่นๆ ที่ควรมอบรักอันแสนบริสุทธิ์ให้แก่กัน
แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถานมองว่าความรักเป็นสิ่งที่งดงามเสมอ โดยความรักต้องอาศัยความเข้าใจที่เป็นรากฐานของการรักให้เป็นอย่างไม่ทุกข์ใจ แต่ความรักของหนุ่มสาวในเมืองไทยมักมองความรักในวันวาเลนไทน์เป็นเรื่องตีกรอบให้แคบลง ทั้งๆ ที่ความรักในวันนี้กว้างมาก และเป็นความรักที่เกิดขึ้นได้ในทุกวัน และทุกคน หากเรามองความรักกับเรื่องเซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน โดยความรักเกิดจากปัญญา ส่วนเซ็กซ์มีรากฐานมาจากตัณหา นั่นหมายความว่าเรารู้เท่าทันปัจจุบันขณะ เราก็จะแยกได้ว่ารักอย่างไรจึงจะไม่เป็นทุกข์
"หากเรามองว่าความรักคือปัญญา ส่วนเซ็กซ์มีรากฐานจากตัณหา เราก็จะแยกได้ว่ารักอย่างใดไม่เป็นทุกข์ แต่ถ้าหากเรามีความหลง สิ่งนี้จะนำมาซึ่งความทุกข์ ถ้าคนหนุ่มสาวมองเรื่องรักต้องจบลงที่เรื่องเซ็กซ์ก็คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่หากรู้จักหลีกเลี่ยงสิ่งที่เข้ามากระตุ้นที่ทำให้เกิดความหลงทางอารมณ์ ไม่หลงโลก ใช้สติอารักขาจิต เราก็จะอยู่กับโลกที่กระทบรู้ไหว ใจจึงตื่น ไม่ตกเป็นเหยื่อของโลกนั่นเอง" แม่ชีศันสนีย์ กล่าว
สำหรับการปรับเปลี่ยนทัศนคติในเรื่องของความรักให้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์นั้น แม่ชีศันสนีย์ แนะนำว่า การปรับเปลี่ยนทิฐิเป็นสิ่งสำคัญกว่าการปรับเปลี่ยนทัศนคติ เพราะทิฐิคือความเห็น หากใจเรามีความรู้สึกที่ครอบงำก็ยากที่จะเปลี่ยนทัศนคติออกไปได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการมีสติปัญญาที่ประคับประคองจิตใจ อย่างมีคนมาพูดคำหวานกับเรา มาบอกรักเรา เราก็ไม่ปฏิเสธ แต่ต้องอยู่อย่างรู้ทันจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ
และสิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ คือค่านิยมของการมีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นที่มักพบเห็นอยู่เป็นประจำ แม่ชีศันสนีย์ จึงได้ฝากไปถึงพ่อแม่ผู้ปกครองในการพูดคุย สื่อสารกับบุตรหลานว่าจะต้องเปิดใจกว้าง อย่าอคติ และร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกับลูกในสิ่งที่ลูกขอ เช่น หากลูกจะรักหรือชอบใคร พ่อแม่จะต้องวางใจและศึกษาคนที่ลูกชอบไปพร้อมๆ กัน
ขณะเดียวกันในช่วงเดือนแห่งรักนี้ ทางเสถียรธรรมสถาน ได้จัดนิทรรศการชีวิต ‘ว่าด้วยรัก...หัวใจผู้หญิง...หัวใจแม่...หัวใจโพธิสัตว์' ระหว่างวันที่ 12-28 กุมภาพันธ์นี้ ที่สวนธรรมทั้ง 16 ไร่ของเสถียรธรรมสถานจะกลายเป็นพื้นที่จัดงานนิทรรศการ ซึ่งให้บรรยากาศเสมือนหนึ่งเดินผ่านเข้าสู่ประตูพิพิธภัณฑ์ ที่จะนำคุณย้อนสู่ธรรมะ ในรูปแบบของนิทรรศการชีวิต ภายใต้แนวคิดการทำงานว่าด้วยรักของ ‘หัวใจผู้หญิง...หัวใจแม่...หัวใจโพธิสัตว์' คือการก้าวออกมาทำงานด้วยการพัฒนาหัวใจของผู้หญิงให้เข้มแข็งเป็นหัวใจของแม่ที่มีธรรม และน้อมนำจิตที่คิดจะให้เป็นหัวใจของโพธิสัตว์ เพื่อออกมาทำงานรับใช้สังคม ซึ่งในปีนี้ จะสร้างทีมจิตอาสาออกไปรับใช้สังคมให้มากกว่าที่เคย โดยอาศัยกุศโลบายต่างๆ ในการนำความรักของผู้หญิง ความรักของแม่ และความรักของโพธิสัตว์ ออกสู่สังคมให้มากที่สุด

รักให้เป็นรักอย่างไร /?/


ทำไมพอตกหลุมรักแล้ว เราถึงต้องวุ่นวายใจ สับสน เจ็บปวด เสียใจ ทำไมถึงไม่ได้มีแต่ความสุข สมหวัง หวานชื่น
คนที่ทุกข์ทรมานเพราะความรัก ส่วนใหญ่ เป็นเพราะรักแบบขาดสติ ใช้แต่อารมณ์ หรือพูดง่าย ๆ คือ ได้แต่หลง แต่ไม่รู้จักรัก
ถ้าไม่อยากมีทุกข์เพราะความรัก ต้องรักอย่างมีสติ มีเหตุผล ใช้สมองประกอบไปกับความรู้สึก มองความเหมาะสมและเข้ากันได้ มากกว่าความรักล้วนๆ ถ้ารักใครจริง เราจะมีความปรารถนาดีให้เขา พร้อมจะเสียสละ ให้อภัย รู้จักยอมรับในความเป็นเขา ไม่คาดหวให้เขาเป็นอย่างที่เราคิด ในเมื่อเราเองยังไม่สมบูรณ์พร้อม เราจะไปคาดหวังให้เขาเป็นอย่างใจเราได้อย่างไร ทั้งสองฝ่ายต้องเรียนรู้ที่จะอดทน หนักแน่น มั่นคงในรัก ห่วงใยดูแลกัน ปรารถนาดีต่อกัน แบบนี้ถึงจะเรียกว่ารักเป็น
ความรักที่ดีต้องรู้จักทั้งให้และรับอย่างเหมาะสม เป็นแฟนกันให้สร้างสรรค์ ต้องรู้จักเอาความรักมาสนับสนุนไปสู่จุดมุ่งหมายในอนาคต ช่วยเหลือกัน สนับสนุนกันไปในทางที่ดี ความรักจะได้เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงให้ทั้งสองฝ่ายมีชีวิตที่ดี และมีความสุข

15 วิธีการบำบัดการอกหักด้วยตัวเอง


1. ใช้เวลาของคุณให้เพลิดเพลินไปกับการ Shopping หาสถานที่ซึ่งคุณสามารถจะซื้อข้าวของเพื่อมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนใหม่ที่สดใสกว่าเดิม คุณอาจจะหาเพื่อนไปด้วยสักคนหรือสองคน เพื่อให้ช่วยกันออกความเห็นในการสร้างบุคลิกใหม่ ที่น่าดึงดูดใจให้กับคุณได้ด้วย งานนี้ต้องลงทุนกันหน่อย

2. เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ออกไปจากสถานที่เก่า ๆ นี้ซะ บางคนอาจจะถือโอกาสลาพักร้อนไปพักผ่อนไกล ๆ จะได้ไม่ต้องมานึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ ในสถานที่เดิม ๆ อีก แต่อย่าลืมชวนเพื่อนสนิทของคุณไปด้วยละ

3. ไปออกกำลังกายเพื่อให้รูปร่างของคุณดูดีขึ้น ก็น่าจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้ อย่างน้อย ก็เป็นโอกาสที่เราจะได้เริ่มทำอะไรใหม่ ๆ อาจจะถือเป็นงานอดิเรกใหม่ ๆ หรือการเล่นกีฬาอะไรเป็นประจำ เช่นตีแบต ตีกอล์ฟ เล่นกีฬา ทางน้ำ หรือบางคนอาจจะไปชกมวยเลยก็ได้ โอกาสนี้ ยังอาจทำให้คุณได้พบเพื่อน (ชาย) ใหม่ ๆ ด้วย 
4. ตามใจตัวเอง ด้วยการไปอบไอน้ำ นอนแช่อ่างจากุชี่ อย่าไปคิดว่ากิจกรรมเหล่านี้เป็นเรื่องเสียเวลา เพราะอย่างน้อย มันจะทำให้คุณรู้สึกสบายตัว และมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้

5. ถ้าคุณอยากร้องไห้ ก็ร้องไปให้เต็มที่เลย คุณอาจจะจัดงานปาร์ตี้เล็กๆ ขึ้นมาสักงานหนึ่ง เพื่อที่จะสลัดความ น่าสงสารของคุณออกไป และถ้าคุณเกิดอยากร้องไห้ขึ้นมาในระหว่างนั้นละก็ ร้องให้เต็มที่เลย ซื่อสัตย์กับตัวเอง
เชื่อเถอะ หลังจากนั้น คุณจะรู้สึกดีขึ้น และเมื่อเวลาผ่านไป คุณจะนึกขำกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น

6. จดจำความรู้สึกที่เลวร้าย ไม่ใช่นั่งคิดถึงเรื่องโรแมนติกของคนที่ตีจากคุณไป โดยคุณอาจจะนั่งลิสต์รายการ ออกมาเลยก็ได้ว่า คนรักเก่าของคุณ ได้กระทำอะไรที่ไม่น่ารักลงไปบ้าง แล้วรวบรวมมันออกมาเป็นเหตุผล ที่คุณจะบอกกบตัวเองได้ว่า นี่แหละ ทำให้ฉันไม่มีวันกลับไปนึกถึงคน ๆ นี้อีก

7. ทิ้ง อะไรๆ ที่เป็นอนุสรณ์ของความรักเก่า ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย จดหมายรัก หรือตั๋วชมคอนเสิร์ตอันแสนโรแมนติก ทำลายมันซะให้หมด จะได้ไม่ต้องหยิบมาดูให้ช้ำใจอีกต่อไป

8. หยุดการออก Date ไว้ชั่วคราว ทำตัวเองให้ปลอดความเคยชินกับการไปไหนมาไหนเป็นคู่สักพักหนึ่ง คุณอาจจะแพคกระเป๋าใส่หลัง แล้วไปหากิจกรรมอื่น ๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว ใส่ความรู้สึกที่ว่า ไม่มีอะไรจะ มาหยุดคุณได้ หรือใครใจกล้า ๆ อาจจะไป Bungee Jump ดูบ้างก็ได้

9. อย่าไปคิดว่าช๊อกโกแล็ต เป็นสัญญาลักษณ์แห่งความรัก ถ้าคุณคิดจะรับประทานมันเข้าไป ก็ให้คิดซะว่ามันเป็นขนมแสนอร่อย คุณอาจจะลองตามใจตัวเองในเรื่องของอาหารการกินบ้างก็ได้ เช่นเมื่อรับประทานอาหารมือค่ำแล้ว อาจจะตามด้วยของหวานที่คุณโปรดปราน เพราะตอนนี้ไม่มีใครจะมาคอยห้ามคุณแล้ว แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่อง
ไขมันส่วนเกินเอาไว้บ้างนะ


10. ออกไปเต้นรำให้สุดเหวี่ยง โชว์ลีลานักเต้นคุณออกมาให้เต็มที่ อาจจะช่วยปลดปล่อยคามรู้สึกเศร้าสูญเสีย ของคุณลงไปได้บ้าง หรือคุณอาจจะลองไปเต้นรำในบรรยากาศแบบแปลก ๆ อย่างคาวบอยดูบ้างก็ไม่เลวทีเดียว

11. หาเวลาออกไปเที่ยวนอกเมือง โดยคุณอาจจะหาเพื่อนทั้งชายทั้งหญิงกลุ่มใหญ่ไปด้วยกันสักกลุ่ม เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

12. เมื่อคุณปรับเปลี่ยนบรรยากาศมาจนพอสมควรแล้ว ก็ต้องกลับมาเผชิญความจริง โดยคราวนี้ คุณอาจจะ พร้อมแล้วสำหรับการออก Date ครั้งใหม่ แต่ก็อย่าลืมใช้เวลาในการเรียนรู้กันให้มากก่อนที่จะไปปักใจรักเขาเขา เหมือนกับคนที่แล้วล่ะ

13. หาความรู้ที่สูงขึ้นมาใส่ตัว เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้คุณรู้สึกว่าตนเองมีค่ามากขึ้น โดยอาจจะไปสมัครเรียน ถ่ายภาพ ปีนเขา หรือเข้าอบรมคอมพิวเตอร์เลยก็ได้ ทำตัวของคุณเองให้ยุ่ง ๆ เข้าไว้ และอีกอย่างหนึ่ง อาจจะ มีใครดี ๆ ที่คุณจะได้พบในระหว่างการไปเรียนรู้หรือเข้ารับการอบรมนี้ก็ได้

14. หาสัตว์เลี้ยงที่มีความซื้อสัตย์กับคุณมาเลี้ยง ก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่เลวเลยทีเดียว

15. อย่าลืมว่า ผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวในโลก อย่างที่ฝรั่งเขาชอบพูดว่า "There''''''''s plenty of fish in the sea"
คนไทยว่า "อกหัก ดีกว่ารักไม่เป็น" 

รักแบบไหน ทีใจต้องการ ??

"เพราะรักในแบบของใคร ก็เป็นแบบของมันไม่มีแบบแผนตายตัว" - อย่าฝืนใจรัก ถ้ามันไม่ใช่
- ไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะคบใครสักคน เพียงเพราะอยากจะมีใครสักคน
- อย่าเปลี่ยนตัวเองเพียงเพื่อให้เขามารัก เพราะจะทำได้ไม่นาน วันหนึ่งคุณจะรู้สึกเหนื่อยเพราะความรัก ที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง
- อย่าหลงในรสชาติของความรักเสียจนลืมชีวิตประจำวันของตัวเอง
หรือสูญเสียความเป็นส่วนตัว 

คนที่พร้อมจะอยู่กับคุณ โดยที่คุณไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตเลย
- คนที่พร้อมจะเดินหน้าเมื่อคุณเดินหน้า คนที่พร้อมจะถอยหลังไปกับคุณ
- คนที่ไม่ยอมให้คุณเดินตามหลัง ขอเพียงเดินเคียงข้างกัน
- คนที่ไม่บังคับให้คุณทำอะไรในแบบที่คุณไม่ชอบ
- คนที่ไว้ใจ ให้อภัย ให้โอกาส ซื่อสัตย์และให้เกียรติคุณ
...นั่นแหล่ะ คือคนที่รักคุณจริง.....
จงถนอมคนเหล่านี้ไว้ อย่าปล่อยให้เขาไปจากคุณ..
เพราะคุณจะเสียใจ หากเขาเปลี่ยนไปหยิบยื่นความโชคดีที่ควรจะเป็นของคุณไปให้คนอื่น
 

คนที่รักคนที่เปลือกนอกมีอยู่เยอะเหลือเกิน
ชีวิตคนคนหนึ่งจะมีคนที่รักคุณจริงผ่านมาสักกี่คน
ใครที่บอกว่ารักคุณแล้วพยายามจะเปลี่ยนคุณ ดึงคุณให้เดินตามทางของเขา
เขาไม่ได้รักคุณจริงหรอก...เขารักตัวเอง 

จงเชื่อในพรหมลิขิต จงเชื่อในเหตุการณ์ที่นำพาความรักมาให้ อย่าบอกว่าไม่รัก ถ้าไม่สามารถสบตาเขาอย่างบริสุทธิ์ใจได้
อย่าบอกว่ารัก..ถ้าคุณไม่รู้สึกวูบวาบเวลาอยู่ใกล ๆ
อย่าบอกว่าไม่คิดถึง..ถ้าหัวใจไม่อาจลืม
อย่าบอกว่าคิดถึง ถ้าเพิ่งจากกันไม่ถึง 1 นาที
อย่าปล่อยให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราหลุดลอยไป
ลองคุยกันมากขึ้น รับรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วยใจ
จะทำให้เรารู้ว่าเราโชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้รู้จักความรัก
อย่าปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งมีน้ำตา ทั้ง ๆ ที่อีกคนหนึ่งกำลังดีใจ
อย่าปล่อยให้ใครอีกคนหนึ่งยิ้ม ทั้ง ๆ ที่อีกคนหนึ่งกำลังร้องไห้
อย่าปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งพูด ทั้ง ๆ ที่อีกคนหนึ่งไม่ต้องการฟัง
 

ความรักต้องมาจากความรู้สึกของคนสองคน..
อย่าให้ใครคนใดคนหนึ่งหยิบยื่น แต่อีกคนหนึ่งไม่ต้องการ
ความรักเป็นเพียงสายใยบาง ๆ ที่มันถูกหล่อหลอมขึ้นจากความรู้สึกต่าง ๆ
ทั้งความอาทร ห่วงใย ห่วงหา คิดถึง
ความอดทนจะทำให้อุปสรรคต่าง ๆ ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ความพยายามจะทำให้เราสองคนยังคงอยู่
ความไว้ใจจะทำให้ความรักของเราแข็งแกร่ง
ความซื่อสัตย์จะทำให้ความรักของเรามั่นคง
ความเสมอต้นเสมอปลายจะทำให้ความรักของเราสวยงาม
และสุดท้ายความรักก็จะก่อตัวขึ้นเป็นความผูกพัน
สิ่งเหล่านี้จะทำให้สายใยบาง ๆ ของความรัก
กลายเป็นเชือกเส้นหนาที่ผูกคนสองคนไว้ด้วยกัน
มันจะเป็นเชือกที่มัดเราไว้ด้วยกัน เป็นเชือกที่ทำให้เราไม่อึดอัด
เราจะไม่ดิ้นรนที่จะพยายามหลุดออกจากเชือกเส้นนี้
 

เมื่อได้เจอความรักที่ดีแล้ว จงทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว 
อย่าปล่อยให้เขาโดดเดี่ยว อย่าปล่อยให้เขาเดียวดาย
คิดถึงสิ่งดี ๆ ที่เราเคยมีกัน อย่าลืมวันแรก ๆ ที่เรารู้สึกกับคน ๆ นี้
เขาเป็นคนดีที่สุดแล้วสำหรับเรา พยายามรักษาเขาไว้
เพราะเมื่อเขาหลุดลอยไปแล้ว เราจะไม่สามารถเรียกความรู้สึกต่าง ๆ กลับมาได้อีก
เหมือนเวลาที่ไม่สามารถย้อนเดินกลับ
ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะอดีตแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
อย่าทิ้งหัวใจของคุณไว้กับอดีต อย่าคิดว่าอดีตไม่มีวันหวนคืน
อย่าคิดว่าไม่มีพรุ่งนี้ อย่าลืมบทเรียนของเมื่อวาน
ทุกชีวิตยังมีความหวังอยู่เสมอ จงปล่อยให้ชีวิตดำเนินต่อไป..
 

วันหนึ่งถ้าชีวิตหวนคืนมาสู่ทางสายเก่า..
ที่เคยทำให้คุณมีความสุขระหว่างเดินทางในแต่ละก้าว..จงอย่าเดินเลี่ยงมันไปอีก
เพราะน้อยนักที่ถนนสายเดิมยังคงสภาพเดิมเพื่อรอให้คุณเดินย้อนกลับมา..
ลองเดินต่อไปสิ..บางทีคุณอาจจะเจอจุดหมายที่คุณค้นหามาตลอดชีวิต
ในเส้นทางที่คุณเคยเดินเลี่ยงมันไปก็ได้...
 

อกหักเรื่องเล็ก แต่อกเล็กนะซิ เรื่องใหญ่ ^^


คำว่า "อกหัก"...ใครที่รักใครไม่เป็นก็คงไม่รู้จักคำนี้.. และคำว่า "อกหัก"...ถ้าใครมีความรักที่สมหวัง  ก็จะไม่รู้จัก คำ ๆ นี้เช่นกัน...
ในเมื่อคนสองคนที่มีใจที่ตรงกัน  ได้มารักกัน  ได้เดินทางในเส้นทางเดียวกัน...
ต่อมาระยะหนึ่ง...ความรักที่มีนั้น   ไม่เหมือนเดิม  ใจไม่ตรงกัน  อาจเพราะว่า  ใครคนใดคนหนึ่ง  มีใจไม่เหมือนเดิม หรืออาจจะเป็นว่า ทั้งสองคนร่วมใจกันใจไม่ตรงกัน...เป็นการใจตรงกันครั้งสุดท้าย..  คนสองคนหมดรักกัน และจากกันไป  เพื่อ "ไปเดินในเส้นทางใหม่"ที่ตนต้องการ..
รูปสวย น่ารัก glitter emoticon www.yenta4.com
กรณีคนอกหัก
เป็นประเภท...เราใจเหมือนเดิม  แต่เขา  เปลี่ยนไป เหมือนโลกทั้งโลก...ทะลายไป...
รู้สึกว่า  ตัวเองไม่มีค่า  คิดแต่ว่า  " ฉันผิดอะไร? "
เขาทำไมจากไป  ทำไม  ทำไม  และทำไม 
ณ เวลานั้น  คนอกหัก  จะกลายเป็นคนช่างคิดช่างตั้งคำถาม  คิดอะไรรกหัวไปหมด..แต่ออกจะคิดแคบไปหน่อย  คิดแต่เรื่องเขาคนนั้น...ด้วยคำถามว่า...ทำไม
ตัวอย่างของคำถามจากคนอกหัก...ที่ต้องการคำตอบจากเขา  (แต่เขาไม่อยู่ให้ตอบคำถาม)
     1.  ทำไมถึงเลิกกับเรา?
     2.  เธอมีใครใหม่หรือ?
     3.  เธอจะคิดถึงฉันไหม?
     4.  ทำไมเหงาอะไรอย่างนี้นะ...เธอล่ะ?
     5.  เธอทำอะไรอยู่นะ...?
                     ฯลฯ
คิดโทษแต่ตัวเอง....
ร้องไห้...ร้องไห้....และร้องไห้....เหมือนคนบ้า.....อยู่ดี ๆ ก็ร้องไห้.....
ทำตัวห่อเหี่ยว เสมือนหมดแรงเพราะทำงานตรากตรำ... สมองฝ่อไปชั่วขณะ....
บางที  สำหรับบางคน.....
ไม่รู้ว่าใช้สมองส่วนไหนคิด...เขาคิดทำร้ายตัวเอง   บางคนถึงกับชีวิตก็มี  
เพื่ออะไร?... พวกนี้ไม่รู้จักใช้สมองอันน้อยนิดที่ปลายนิ้วมือคิดเลย...(จริง ๆ)
เสียใจกับความรักที่มันไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมน่ะได้....แต่อย่าเสียใจนานนัก...
เราเสียใจ...ร้องไห้....ทำร้ายตัวเอง   จะมากน้อยเท่าไร  
"เขาคนนั้นไม่มารับรู้อะไรด้วยหรอก"
รูปสวย น่ารัก glitter emoticon www.yenta4.com
ขณะที่คุณร้องไห้...เสียใจ   คิดถึงแต่เขา  นึกถึงแต่เขา...
คุณทำร้ายตัวเอง....เขาคนนั้น  กำลังนึกถึงคนอื่น  มีความสุขอยู่กับรักใหม่ของเขา 
โดยที่เขาไม่ได้นึกถึง  ไม่ได้คิดถึงคุณแม้แต่น้อยนิดเลย...
ในเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว...คิดอะไรได้รึยัง?

คิดซะ...เขาคนที่ทำเราร้องไห้ได้น่ะ ไม่ได้มีค่าอะไรเลย  กับชีวิตที่มีค่าของเรา  
อยู่มาได้อายุเท่านี้  ก่อนหน้านี้ไม่มีเขาเราก็ไม่ตาย ประสาอะไรกับตอนนี้  
ณ วินาทีนี้ เราจะไม่มีเขาแล้ว จะเป็นอะไรไป... 
ชีวิตมีค่า เวลาที่มีอยู่ใช้ให้คุ้มกับคนที่เขาหวังดี  รักเรา  เถอะนะ...
รักตัวเองให้มากขึ้น...มองโลกให้กว้างกว่านี้  แล้วคุณจะเห็นอะไรดี ๆ มากมาย
คนรอบ ๆ ข้างคุณ  เพื่อน ๆ  คุณ  ก็ช่วยให้คุณหัวเราะได้แค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น....
มีแต่ตัวคุณเองเท่านั้นแหล่ะ...ที่จะช่วยให้ตัวคุณเองยิ้มและหัวเราะได้...
หาอะไรทำเพื่อที่จะได้ไม่คิดฟุ้งซ่านกับเรื่องเลวร้ายอย่างนั้นซะ....

ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร ถึงได้อ่านเจอแต่เรื่องรักๆ ที่น่าสนใจ.. มาดูกันว่า วิธีรักอย่างมีกึ๋น..ของผู้หญิงฉลาด เค้าเป็นยังไง
 
ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า
ถ้าคุณไม่เห็นคุณค่าในตัวเองก็อย่าหวังว่าใครอื่นจะมองเห็น การที่คุณหลงรักใครสักคน และต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเค้าคนนั้น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก เมื่อคุณเปลี่ยนเขาก็จะหมดความสนใจในตัวคุณ หากเทียบกับตอนที่เขาหลงรักคุณใหม่ๆ เขารักในตัวตนของคุณไม่ใช่คนที่เขาใฝ่ฝันอยากให้เป็น ซึ่งเป็นเพียงจินตนาการของผู้ชายเท่านั้น แต่คุณเป็นคนในโลกแห่งความจริง จงเป็นตัวของตัวเองและปรับเปลี่ยนเพียงพฤติกรรมบางอย่าง เพื่อตัวคุณเองนะ ไม่ใช่เพื่อเขา
เซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องง่าย
ก่อนที่ผู้หญิงฉลาดจะสนิทสนมกับใครสักคนทางกาย ควรรู้จักเขานานพอที่จะรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร รักสุขภาพตัวเองแค่ไหน และควรให้แน่ใจว่าหากคุณมีสัมพันธ์กับเขา คุณจะปลอดภัยทั้งทางจิตใจและร่างกาย และถึงแม้ว่าเขาจะดีพร้อมทุกอย่างก็ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องนอนกับเขาหากคุณไม่พร้อม เสรีภาพทางเพศหรือฟรีเซ็กซ์ควรควบคู่ไปกับความรับผิดชอบด้วย เรารู้จักผู้ชายได้โดยไม่ต้องมีเซ็กซ์เลยด้วยซ้ำ หากเขาจริงจังกับคุณ
ผู้ชายแสนดีไม่จำเป็นต้องหล่อ
หากคนที่คุณคบอยู่เป็นคนดีและคุณชื่นชอบเขา ติดเพียงแค่เขาไม่ใช่หนุ่มหล่อในสเป็ค ให้คุณลองมองดูในจุดดีของเขา และลองมองดูถึงอนาคตว่าเขาจะสามารถใช้ชีวิตอยู่กับคุณได้ด้วยความสุขหรือไม่ ลองสังเกตแฟมิลี่แมนที่ไปเดินชอปปิ้งในซูเปอร์มาเกต หรือพาแฟนไปเดินเที่ยว หรือทานดินเนอร์ เขาเหล่านั้นใช่จะหน้าตาดีไปซะทุกคนซะหน่อย ลองมองที่จิตใจแล้วคุณจะเห็นความ(ดี)งาม
ความเป็นเพื่อนยาวนานกว่าความรัก
คู่รักคือมิตรภาพที่ยาวนาน นั่นคือคุณสามารถพูดคุยกับเขาได้ทุกเรื่องไม่เว้นเรื่องกระจุกกระจิกของผู้หญิง ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจแต่เขาจะตั้งใจฟังคุณและช่วยคุณแก้ปัญหา
ความรักมีปริมาณ 50-50
การที่ต่างฝ่ายต่างมอบความรู้สึกห่วงใยซึ่งกันและกันอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่ดี ทุกคู่ควรเป็นทั้งฝ่ายรับและฝ่ายให้ เพราะถ้าอีกฝ่ายเป็นคนให้มากเกินไปเขาอาจจะรู้สึกอึดอัดและรู้สึกผิด เพราะเหมือนเป็นการโดนหลอดใช้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อความรักในระยะยาว การมอบสิ่งดีๆให้แก่กัน เป็นสิ่งที่ไม่ยากเพียงพยายามฟังและเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดหรือต้องการ
ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัว
การที่คบกันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา คุณเองก็ต้องการจะไปไหนมาไหนกับเพื่อนผู้หญิงบ้าง พูดคุยกันในเรื่องที่คุยได้เฉพาะกับผู้หญิง เขาก็เช่นกันต้องการไปสังสรรค์กับเพื่อน หรือแม้แต่ใช้เวลาว่างเท่าที่เขาต้องการ แต่ต้องไม่ใช่ละเลยคุณ แต่คุณอาจจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมกับเขาบ้าง แค่อย่าไปจุกจิกกับเขามากนักเลยนะ
เราไม่มีวันเปลี่ยนแปลงผู้ชายได้
ไม่มีใครจะเปลี่ยนแปลงเขาได้ นอกเสียจากเขาต้องการจะทำเช่นนั้นเอง ฉะนั้นอย่าเสียเวลาในการขอร้องให้เขาเปลี่ยนแปลง เอาเวลาที่มีค่านั้นมาปรับปรุงสถานการณ์บางอย่างของคุณและเขาให้มีแต่ความสัมพันธ์ดีๆดีกว่านะ หรือคุณอาจจะเป็นฝ่ายปรับเปลี่ยนตัวเอง คุณสามารถทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น แต่อย่าลืมว่าอย่าเปลี่ยนไปซะหมดเพราะเขาคงไม่ชอบใจแน่ และหากเขาแสดงการกระทำที่ไม่ให้เกียรติคุณ เขาก็ไม่สมควรได้รับในสิ่งดีๆที่คุณพยายามหรือความห่วงใยจากคุณแล้วล่ะ อย่าปล่อยให้เขาทำตัวแย่กับคุณ เพราะเขาจะยิ่งทำตัวแย่มากขึ้นเรื่อยๆ
งานบ้านไม่ใช่หน้าที่เฉพาะผู้หญิง
อย่ากลัวที่จะขอให้เขาช่วยเหลือ บางครั้งที่เขาไม่ช่วยเพราะเขาไม่สนใจมันจริงๆ หรือเขาคิดว่าคุณอยากจะทำเอง หรือเขาอาจจะขี้เกียจ แต่ในเมื่อคุณไม่ขอเขาก็ไม่ทำ และหากเขาช่วยงานคุณแล้ว อย่าอยู่ใกล้คอยชี้นิ้วสั่ง และอย่าเข้าไปทำเสียเองหากเขาทำไม่ได้ดั่งใจคุณ อย่าลืมว่าเขาต้องการการฝึกฝน คอยแนะนำการทำงานของเขาแต่อย่าตำหนิเมื่อเขาทำพลาด สิ่งที่สำคัญคือการที่เขารักคุณไม่ได้หมายความว่าคุณต้องรับใช้เขา ผู้ชายที่ทำงานบ้านเป็นผู้ชายที่แสนจะเซ็กซี่และน่ารักที่สุด
การแต่งงานไม่ใช่กระดาษแผ่นเดียว
ความผูกพันระหว่างคนสองคนต้องการเวลาและขั้นตอนในการพัฒนาตนเอง ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีบ้านสวยหรู หรือแหวนเพชรวงโต และไม่ใชการมีเซ็กซ์เท่านั้น การแต่งงานคือการประนีประนอมเพื่อความเข้าใจในการใช้ชีวิตคู่ ชีวิตคู่ไม่ต้องโรแมนติกตลอดเวลา ก็สามารถมีความหมายลึกซึ้งและเป็นรักที่แท้และฉลาดได้

เศร้า


                                       ไม่เคยอิจฉา .. คนที่มีแฟน หน้าตาดี



                                                   ไม่เคยอิจฉา .. คนที่มีแฟน “หน้าตาดี”


 แต่.. อิจฉา “คนที่เค้ารักกัน” มาเป็นสิบๆปี
และยังรักกันดี เหมือนเดิม